http://www.shop2thai.com/shop/Suzstar

Romantic Erotic Love
 
  ยอดนักอ่าน
 
เปิดเมื่อ   24 พ.ย. 2554
นักอ่าน 6,859
นิยาย 13
หมวดหมู่นิยาย 5
 
 
  หมวดหมู่นิยาย
 
Boy Love (3)
Erotic (2)
Romance (3)
แจกฟรี อ่านฟรี (3)
ดาร์ก สะอื้น (2)
 
 
  เมนูหลัก
 
หน้าแรก
Venus909
คิดถึงก็ทักมา
จากใจ
การชำระเงิน
เว็บบอร์ด
คำถามที่พบ
หมวดหมู่นิยาย
แจ้งการส่งของ
 
 
  สมาชิกเข้าสู่ระบบ
 
ชื่อผู้ใช้
:
รหัสผ่าน
:
 
 
 
  ปฎิทินและเวลา
 
 
 
  แบบสำรวจความเห็น
 
โหวต ปลดล็อคนิยาย ประจำเดือนกันยายน ค่ะ
วาย / เกลียดดีนักจะทำให้รักมากมาย
รักโรมานซ์ / TGA รักละมุน
อิโรติก /อ่อยรัก นายซื่อบื้อ
วาย / Yes or No
โรมานซ์ แซ่บ / ร่าน ราวี
 
 
 
Venus909
 
  เกลียดดีนัก...จะทำให้รักมากมาย
 


ผู้แต่ง


ติดอกติดใจโหลด Ebook ได้จ้า


 

EP.1

INTRO

  Nano's Part


1 ปีที่แล้ว

                 "11 โมงอย่าเลทนะนาโน ถ้ามาช้ามะเหมี่ยวกลับจริงๆด้วย" คำสั่งแกมบังคับที่หลอกหลอนผมตลอดคืน ทำเอานอนไม่หลับกระสับกระส่ายกลัวว่าจะไปสาย ผมต้องไม่พลาดนี่คือเดทแรกของผม กับสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน เชื่อเถอะ!! ทุกคนต้องอิจฉาผมเวลาที่เดินเคียงคู่ไปกับมะเหมี่ยว


           มือเราอาจจะเผลอโดนกันแบบไม่ตั้งใจ ผมอาจจะได้จูงมือเธอข้ามถนน ตอนที่นั่งทานอาหารร้านที่เธอชอบ เธอคงคุยสนุกสนานน่ารักน่ามอง เสียงเล็กออดอ้อนจนผมอาจจะเผลอใจเต้นแรงไปกับเธอ ผมจะถือโอกาสนั่งแท็กซี่ไปส่งเธอที่บ้านแล้วเธอก็หอมแก้มผมเป็นการขอบคุณ


" ขอบคุณนะ นาโนเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เราชอบเธอจัง"

 


กริ๊ง กริ๊งง...

           เสียงไอโฟนคู่ใจปลุกผมจากภวังค์ทันที เวลาตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงผมยิ้มกับฝันดีที่ปลุกความเป็นชายจนผงาดงำน่าเกรงขาม ไม่ใช่ย่อยนะเราเนี่ยดูดีเลยที่เดียว   ผิวทุกส่วนในร่างผมขาวละเอียดเนียนนุ่มน่าสัมผัส แม้แต่ส่วนที่ใครๆ ก็ดูแลยากเพราะมันทั้งอับทั้งชื้น ของผมยังใสกิ๊กประหนึ่งผิวเด็กแรกเกิดก็ไม่ปาน


             " นาโนตื่นแล้วก็มาห้องพี่หน่อย มารีวิวครีมให้ทีดิ" ได้ยินไม่ผิดครับ เห็นหน้าแหยๆ ไม่สู้คนแบบนี้ผมรับจ้างพี่สาวรีวิวครีม งานง่ายเงินดีขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมากนอนนิ่งๆ อย่างเดียว เดี๋ยวพี่ไมโครก็จะเอาแผ่นขาวๆ มามาร์กหน้าให้ คุยโม้อวดสรรพคุณไปเรื่อย ถูๆ ล้างๆ เช็ดๆ แล้วก็ซูมกล้องมาใกล้ๆ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ คลิปหนึ่งผมได้ค่าเหนื่อยตั้งหลายร้อย แล้วคิดดูว่าทำทุกวันผมจะมีเงินเก็บขนาดไหน


พี่ไมโคร : "แกผิวดีเพราะครีมพี่เลยนะเนี่ย รู้ตัวหรือเปล่า"

นาโน : "ไม่จริงอะพี่ ผมว่าผมก็หล่ออยู่แล้วนะ"  

พี่ไมโคร : "ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะ หัวเกรียนขนาดเนี่ย"

พี่ไมโคร : "หน้าดี มันก็ยังไม่พอปะ"

นาโน : "พอไม่พอไม่รู้อะ อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้เดทกับดาวที่โรงเรียน"

พี่ไมโคร : "เดทกับสาวหรอ"

นาโน : "ดาว ก็ต้องผู้หญิงดิพี่"

พี่ไมโคร : "อ้าว!! พี่ก็นึกว่าแกชอบเดือน"

นาโน : "เฮ้ย!! พูดอะไรน่าเกลียด"

พี่ไมโคร : "น่าเกลียดตรงไหน ผู้ชาย-ผู้ชายคบกันดูดีจะตายไป"

นาโน : "พอๆ อย่าเอาความวายในตัวพี่ มายัดเยียดให้ผม"


             ผมรีบลุกหนีทันทีเพราะพี่ไมโครสาววายตัวแม่เลย แกงค์นางแต่ละคนเฉิดฉายสไตล์เน็ตไอดอลไร้แฟนกันทั้งนั้น เพราะมั่วแต่ลุ้นให้ผู้ชายได้กันเองจนไม่มีเวลาหาไง ผมไม่อยากคุยเดี๋ยวยาว เอาเวลาไปแต่งหล่อไปหาสาวดีกว่า

             จ้องตัวเองในกระจกเช็คเสื้อผ้าหน้าผม ไม่ลืมส่องไรฟันเช็คซากวัชพืช สูดลมหายในเข้าออกเช็คกลิ่นหอมสดชื่น เสื้อยืดมีแบรนด์ตัวเดียวในตู้ถูกสวมอย่างบรรจง รีดจนเรียบกริบกับกางเกงยีนส์ตัวเก่ง ร้องเท้าผ้าคู่ประจำ มองตัวเองตอนนี้มั่นใจสุดๆ 

 

             กว่าจะฝ่าจราจรจากชานเมืองมาสยามได้ก็เกือบสายแล้วครับ ขนาดผมเผื่อเวลาแล้วนะยังจวนเจียนเลย เหลืออีกแค่สิบนาทีผมวิ่งสุดตัวเพื่อ เดทแรก สาวคนแรก หอมแก้มแรก อาจจะจูบแรกของผม

ปัง!!...  # ชนจังๆ กับอกใครบางคน


                " ขอโทษครับ" เงยหน้าขอโทษอย่างรีบร้อนจะได้จบๆ ไปแต่จังหวะนั้นอีกคนดันก้มลงมา ในขณะที่ผมกำลังจะขอโทษอีกคนกำลังจะด่า ปากเราสัมผัสเปิดสองกลีบเข้าหากันพอดีผมอึ้งเหมือนเวลาหยุดหมุน ตาจ้องคนตรงหน้าค้างเหมือนคนกำลังฝัน เผลอเม้มปากเขินอายอย่างไม่รู้ตัว เดี๋ยว!! นี่ผมกำลังอาย และเม้มปากอีกคนอยู่หรอ


             แรงดีดที่หน้าผากเจ็บจนกะโหลกจะร้าว คนอะไรมือหนักชะมัด

            " มึงจะจูบกูอีกนานไหม" คำถามแรกทำเอาผมตัวชาวาบ อึกอักราวกับพูดภาษาไทยไม่ได้ชั่วขณะ ตอนนี้ร่างตอบสนองเป็นภาษากายทั้งสั่นประหม่าส่ายหน้าค้าน


            " ไม่ใช่จูบเค้าเรียกว่าปากแตะกันตั้งหาก" พูดจบผมก็เดินหนีทันที

 

 

ไลน์ !! ไลน์!!

มะเหมี่ยว : "บอกแล้วไงว่าห้ามสาย เราไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา"  

มะเหมี่ยว : "นายก็เที่ยวคนเดียวแล้วกัน"

มะเหมี่ยว : "บาย"


            นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมซวยสองครั้งซ้อนในวันเดียวเดทแรกพังตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ทุกอย่างที่คิดไว้หายไปทันที แถมจูบแรกของผมยังเสียให้กับใครก็ไม่รู้...ที่เป็นผู้ชายอีกด้วย เวรกำ!!

 



 

EP.2

Nano

Nano's Part

ไมโคร : "ไหนๆ แกก็ติดวิทศวะอย่างที่ต้องการแล้ว"

ไมโคร : "แกก็น่าจะดูแลตัวเองบ้างนะ"

ไมโคร : "เวลาแค่ปีเดียว ปล่อยตัวอ้วนเป็นหมู หน้ามันเยิ้ม ผิวแห้งกร้าน"

ไมโคร : "นี่นายใช่น้องฉันคนเดิมหรือเปล่าเนี่ย"

นาโน : "ช่างผมเหอะพี่ จะอ้วนจะผอมก็รีวิวครีมได้เหมือนเดิมแหละน่า"

ไมโคร : "ก็จริง แต่แกโตแล้ว"

ไมโคร : "มันต้องพัฒนารูปร่างหน้าตา ไปพร้อมๆ กับสมองซิ"

นาโน : "ไม่จำเป็นหรอกพี่ ผมยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้"

ไมโคร : "ตามใจเลย ไว้แกอยากดูดีเมื่อไรก็นึกถึงฉันแล้วกัน"

           

                 ไม่ใช่ไม่รู้สึกตัวนะครับ บ้านผมก็มีกระจกสะท้อนให้เห็นอยู่ว่าผมเปลี่ยนไปมากขนาดไหน หุ่นนักกีฬาเริ่มอ้วนบวมไปทั้งตัว ผมเกรียนรองทรงสั้นยิ่งทำให้หัวผมเล็กนิดเดียวไม่สมส่วนกับตัวเข้าไปอีก แว่นหนาเตอะใต้แว่นยังมีตาคล้ำ สิวเห่อ รูขุมขนบาน คางย้อย คอเป็นชั้น แขนเป็นมัดๆ หาเสื้อผ้าใส่ไม่ได้ ถ้าปล่อยตัวอีกสัก 10 กิโล เสื้อผ้าผมคงหลุดไซร์  XL แต่ผมไม่สนเพราะผมเรียนเก่งและมีตังค์


                สอบติดวิทศวะเหมือนที่ใจต้องการ มันคุ้มค่าที่ยอมเอาตาแพนด้าไปแลกมา พรุ่งนี้ก็จะเปิดเทอมแล้ว ไม่รู้ว่าผมต้องเจออะไรอีกบ้าง แต่คงไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับผมแล้วเพราะผมได้เจอคนที่น่ากลัวที่สุดในวันนั้น


นาโน : " เวรกำ!! ไปสายแค่นี้มันผิดอะไรนักหนาวะ"

คนนั้น : " ทำหน้าเป็นหมาหงอยเลยมึง มาขอโทษกูซะดีๆ"


             ผมเหลือบมองคนที่เราเพิ่งแตะปากกันไปอย่างกลัว คนอะไรก็ไม่รู้น่ากลัวชะมัด ทำยังกับแกงค์มาเฟียทวงหนี้ในสยามไปได้


             "ขอโทษ ผมรีบไปหน่อย" ผมยอมขอโทษด้วยน้ำเสียงสุภาพอีกครั้ง แต่คงยังไม่พอสำหรับคนอารมณ์ร้อนอย่างเค้า


              " เรื่องชนไม่เท่าไร แต่เรื่องที่มึงจูบกูกลางห้างเนี่ย จะรับผิดชอบยังไง" คนบ้าอะไรพูดคำว่า "จูบ" เสียงดังชัดเจนไม่อายคนเลย แถมยังมาถามหาความรับผิดชอบจากผมที่แม้แต่จูบก็ยังไม่เคยเนี่ยนะ


                         " กูบอกแล้วไงว่าแค่ปากแตะกัน" ผมเถียงทันที คนที่ตัวสูงกว่าผมเดินรั้งคอเสื้อเอาเรื่อง พูดใส่หน้าเหมือนผมผิดอยู่คนเดียว


          " มึงต้องรับผิดชอบทำให้กูเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น มึงต้องมาเป็นตัวตลกในสายตาของกู" เสียงเหี้ยมพูดเน้นทีละคำจนผมเริ่มกลัว ตอนนั้นสะบัดสุดแรงจนหลุดจากมือแกร่งได้ก็วิ่งไม่คิดชีวิต


           คนบ้าอะไร!! ผิดด้วยกันแท้ๆ ยังมาหาเรื่องผมอีก เออ..ถ้าผมเป็นฝ่ายเข้าไปจูบเค้าเองก็ว่าไปอย่าง เฮ้ย!! ไม่ใช่แล้วเค้าเรียกว่า "ปากแตะกัน" ตังหากล่ะ



เพชร : "นินาย นาย!! เหม่ออะไรอยู่ ไปลงชื่อซิ"

นาโน : "ออ โทษที"

เพชร : "ไม่เป็นไร รีบลงชื่อเหอะได้ไปรวมกลุ่มกัน"

เพชร : "รุ่นพี่ประกาศเรียกหลายทีแล้ววะ"

นาโน : "เออไปๆ เราชื่อนาโน แล้วเธอล่ะชื่ออะไร"

เพชร : "เราชื่อเพชร ยินดีที่ได้รู้จัก"



           มือเรียวของคนตัวเล็กใส่กระโปรงพลีทถูกระเบียบเป๊ะยื่นมาให้ผมจับ ผมเกร็งๆ แต่ก็ยอมจับแต่โดยดี


           "ไม่รู้สึกอะไรเลยแฮะ" ผมคุยกับตัวเองอีกแล้ว ตั้งแต่วันนั้นความกลัวผมก็หายไปหมดสิ้น ชีวิตไม่มีความตื่นเต้นตั้งแต่ที่วิ่งหนีกระเจิงจากผู้ชายคนนั้น


           คณะเราปีนี้ไม่ค่อยมีสาวสาว พอผมกับเพชรเดินเข้ามาทุกคนมองกันเป็นตาเดียว เสียงแซวหลายทิศทางจนฟังไม่รู้เรื่องเล่นเอาทำตัวไม่ถูก มือเพชรเอื้อมมาจับแขนผมแบบประหม่า แต่ในสายตาคนอื่นมันเหมือนกำลังแสดงความเป็นเจ้าของมากกว่า

                

           " อ้าวๆ แฟนกันไงล่ะคู่นี้เดินเร็วๆ อ้อยอิ่งอยู่ได้" เสียงรุ่นพี่ตะโกนให้เราเร่งฝีเท้า บ้างก็แซวว่าเป็นนางฟ้ากับหมาวัด บ้างก็ว่าผมแค่เดินมาส่ง แหม่!! รุ่นพี่นี่ปากร้ายทุกคนเปล่าเนี่ย เพชรไม่พูดอะไรยังเกาะแขนล่ำๆ ของผมแน่น ผมก็เลยไม่พูดตามปล่อยให้ทุกคนเข้าใจไปแบบนั้น


ริว : "เฮ้ย!! ไอ้อ้วนนี่กูขอนะโว้ย"

รุ่นพี่ : "อะไรของมึง ไปยุ่งกับเด็กคณะมึงโน้น"

ริว : "ก็นี่น้องรหัสไอ้คิม กูจะช่วยดูแทนมันเอง"

               


          " ผมนั่งได้ยังครับ" เดินมากว่าจะถึงก็เหนื่อยเหงื่อไหลเป็นน้ำแล้ว ยังมาเจอรุ่นพี่เถียงกันอีก ผมเอาแต่ก้มหน้ารับฟังจนเริ่มทนไม่ไหวเอ่ยปากถามพร้อมเงยหน้า แทบจะวินาทีเดียวเลยผมต้องรีบก้มหน้าลงโดยอัตโนมัติ


           " ผู้ชายคนนั้น" ผมจำเค้าได้ทันทีเพราะเค้ายังดูดีไม่เปลี่ยน มีแต่ผมที่เปลี่ยนไปแล้ว ก้มหลบตาเผื่อเค้าจะจำไม่ได้

                

           ตอนนี้ผมกลายเป็นน้องใหม่วิทศวะที่มีเพื่อนของพี่รหัสเด็กแพทยศาสตร์คอยดูแล กิจกรรมสลายพฤติกรรมสร้างความสัมพันธ์ยังดำเนินไปเรื่อย ในขณะที่ผมกับพี่แทบไม่มองหน้ากันเลย


ริว : "มึงเงยหน้าซิ กูชื่อริว"

นาโน : "ผมชื่อนาโนครับ"

พี่ริว : "นาโน ชื่อแมร่งไม่เข้ากับตัว"

ริว : "ดูจากสภาพน่าจะชื่อ บิ๊กเบิ้ม มากกว่า"

นาโน : "ตลกมากไหมพี่ ว่าคนอื่นแล้วตัวเองดีแค่ไหนกัน"

ริว : "ปากดีนะมึง"


            ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเถียงหรอก แต่ปากมันไปไวกว่าความคิด คือขอให้ได้เถียงไว้ก่อนจะถูกผิดช่างมันเราต้องไม่กลัว พี่ริวยังพูดยั่วประสาทผมต่อจี้จุดด้อยของผมแทบจะทุกเรื่อง อะไรที่ทำให้ผมอับอายได้ดูเป็นเรื่องสนุกของเค้าไปหมด เพื่อนคนอื่นๆ ก็พลอยขำไปด้วยมองไปเห็นมีแค่เพชร ที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แทนผม


พี่ริว : "บ้านมึงอยู่ไหนอะ เดี๋ยวกูไปส่ง"

นาโน : "ไม่ต้องหรอก ผมกลับเองได้"

ริว : "ก็กูบอกจะไปส่ง มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง"

นาโน : "เอาผมไปด้วยก็หนักรถเปล่าๆ"

ริว : "กูก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้นหรอก ”

ริว : “ พี่รหัสมึงบอกให้กูใช้งานมึงได้แต่ต้องไปส่งมึงด้วย"

นาโน : "สรุปจะใช้งานอะไรก็ว่ามา"

ริว : "ไปก่อนเดี๋ยวกูบอก ”


                ระยะห่างของเราประมาณเมตรหนึ่งได้ เค้าเป็นคนมีออร่ามาก เดินผ่านตรงไหนเหมือนมีแสงเปล่งประกายวับออกมาจากตัว สาวมองตาเป็นมันขืนผมไปเดินด้วยเหมือนแมลงวันตอมขี้ยังไงยังงั้นเลย แล้วเราก็กลับบ้านพร้อมกัน เฟอร์รารี่หรูเปิดรับน้ำหนักผมเข้ามาอีกคน แรงยุบตัวฮวบต่ำทำเอาผมไม่กล้ามองหน้าคนข้างๆ นึกภาพออกเลยว่าตอนนี้สายตาเค้าจะเย้ยหยันขนาดไหน


ริว : "กินไรดีวะ มึงคิดดิ๊"

นาโน : "กินไรก็ได้พี่"

ริว : "กูบอกอยู่ว่าหิวไง กูคิดไม่ออกหรอกเลยให้มึงคิด"

นาโน : "อยากกินไรก็กินตามสะดวกเลย ผมยังไงก็ได้"

ริว : "เดี๋ยวกูก็แดกมึงซะตรงนี้เลย กวนชิหาย"


              เดี๋ยวนะ!! ไอ้คำว่า "แดกมึง" ของพี่เค้ามันฟังแปลกๆ ถ้าพี่ไมโครมาได้ยินต้องมโนเป็นสายวายแน่ๆ ก็คำนี้เค้าไว้ใช้ตอนทำเรื่องยังนั้นกันไม่ใช่หรอ แล้วแววตานั้นอะไรจงใจมองให้ผมรู้สึกซะด้วย รู้สึกเขินหรอไม่ใช่มั้ง? ที่ผมเป็นอยู่แค่เห่อร้อนแปลกๆ เพราะเดินตากแดดมามากกว่า

              


              " ไปบ้านกูแล้วกัน แล้วมึงก็จัดการล้างรถให้กูด้วย" พี่ริวมันสั่งเหมือนผมเป็นลูกน้อง มากกว่ารุ่นน้องนะเนี่ย มือนิ่มๆ ของผมกำลังถูกใช้งานจับอะไรแข็งๆ จนเปียกชุ่มไปหมดแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

( อย่าเพิ่งคิดไกล ผมหมายถึงจับฟองน้ำล้างรถจนมือเปียก ถูไปถูมาจนเหนื่อย)

 


@ บ้านริว 

               

            บ้านพี่ริวแต่งแบบสมัยใหม่ ต้นไม้เยอะร่มรื้นเย็นสบาย


            "คุณริวมีแขกเหรอคะ ให้ป้าเตรียมของว่างให้ที่ไหนดีคะ" เสียงแม่บ้านสูงวัยถามอย่างสุภาพ พี่ริวสั่งให้จัดโต๊ะของว่างข้างนอกเพราะผมอาสาจะมาล้างรถให้ ทุกคนอิดออดไม่อยากให้ผมที่เป็นแขกทำ แต่พี่ริวพูดกลับตาลปัตรไปหมด สรุปผมต้องยอมรับชะตากรรมล้างรถคันที่เพิ่งนั่งมา ทั้งที่มันสะอาดใสวับจนเห็นเงาตัวเอง แต่พี่รินกลับบอกว่าสกปรกและผมก็อาสาล้างให้

                

            " ตั้งใจถูหน่อยนะ ลูกชายกูไม่ได้ขัดตัวมานานแล้ว" เสียงเย้ยหยันพอใจที่ได้แกล้งผม นานเนินอะไรล่ะใสสะอาดทุกซอกทุกมุมเหมือนเพิ่งออกมาจากคาร์แคร์แบบนี้ มันอยากแกล้งกันเล่นมากกว่ามีหรอที่คนอย่างนาโนจะยอมอยู่ฝ่ายเดียว


            ผมจงใจฉีดสายยางแรงๆ สะบัดไปมาให้น้ำกระเด็นไปโดนพี่ริว เสียงโวยวายข้างหลังบอกว่าแผนผมสำเร็จ ผมหันหน้ามาเถียงทั้งน้ำสายยางที่ยังเปิดอยู่ จงใจฉีดใส่หน้ารุ่นพี่อย่างหมั่นไส้ แต่พี่ริวกลับหลบทันคว้าถังแชมพูมาสาดจนเข้าตาผม


            โอ๊ย!! ..

                

            "เป็นไรมากเปล่า ไหนกูดูหน่อย" เสียงพี่ริวกระซิบอยู่ใกล้ มือหนาเชยคางให้ผมเงยขึ้นใช้น้ำลูบตาให้ผมแผ่วเบา บรรจงเช็ดนุ่มนวลจนผมลืมตาได้ ระยะใกล้กันแค่คืบทำให้ผมรู้สึกถึงสัมผัสวันนั้น อึ้งอยู่สักสามวินาทีก่อนจะดีดตัวออก 


            " เด็กโง่เอ๋ย แกล้งนิดแกล้งหน่อยก็ไม่ได้" พี่ริวลูบหัวผมอย่างเอ็นดู หน้าตาที่หล่ออยู่แล้ว พอมีรอยยิ้มอบอุ่นจริงใจไปประทับอยู่ ยิ่งโคตรหล่อจนผมมองค้างทำอะไรไม่ถูก

                

            " พอแล้วไปอาบน้ำห้องกูปะ เดี๋ยวพาไป" พี่ริวกอดคอพาผมเข้ามาอาบน้ำในบ้าน ก็เราเล่นกันซะเปียกไปหมดแชมพูยังกังอยู่เต็มหัวไม่อาบก็ไม่ได้แล้วด้วยซิ


            " อาบด้วยกันเลยเนอะ กูก็เปียกเหมือนกัน" ประโยคนี้ทำลายความมั่นใจผมจนเหลือ 0% ยังไงซะผมจะไม่ยอมเด็ดขาด สรีระร่างกายผมไม่เหมาะจะอาบน้ำร่วมกับใครนักหรอก



นาโน : " พี่อาบก่อนเลย เดี๋ยวผมรอได้"

  ริว : " อย่าขัดใจกู สภาพมึงเยินขนาดนี้จะอายอะไรนักหนา"

                

           เออจริง!! ไอ้คนหล่อซิต้องอาย สภาพผมมองตรงไหนก็มีแต่ไขมัน รอยแตกลาย ผมถอดเสื้อกางเกงออกเหมือนไม่รู้สึกอะไรแมนๆ อาบน้ำด้วยกันจะอะไรนักหนาวะ เจอน้ำอุ่นที่เปิดรอจนเต็มอ่างช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ผมหลับตาทิ้งอารมณ์แบบคนเพลียมากจริงๆ อีกคนก็เหมือนรู้ใจนั่งนิ่งไม่กวนให้ผมหงุดหงิดเลยสัมผัสแผ่วเบาลูบไล้อยู่หน้าขา เอ็นอ่อนนิ่มถูกลุกล้ำจนเริ่มดื้อตื่นตัว

          

           " พะ พี่!! ทำอะไร" # ตกใจถาม พี่ริวยังวุ่นวายกับร่างกายผมไม่ยอมปล่อย "กูแค่อยากรู้ เค้าว่าคนอ้วนของจะเล็กจริงไหมวะ" ระยะใกล้กันมากจนผมต้องเบี่ยงหน้าห้ามใจ มือรีบคว้าแขนคนพี่ไว้อย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี


         "ของมันก็เหมือนๆ กันพี่จะสงสัยอะไร" # พูดติดขัดพยายามตอบ

                 

         " ไม่เหมือน มึงลองจับของกูดิ" มืออีกข้างที่ว่างอยู่ดึงมือผมไปจุดนั้นทันที แล้วมันก็ไม่เหมือนจริงอย่างที่พี่เค้าพูด ขนาดว่าผมพอใจในของตัวเองแล้ว มองมันทุกวันว่าน่ารักกำลังดี แต่พอเจอของพี่ริวของผมดูอนุบาลไปเลย แท่งแข็งโตเต็มลำเด้งสู้มือไม่หยุดแค่มือผมกำไว้เฉยๆ แรงดันภายในเอ็นยังเต้นตุบๆ ยั่วให้ผมขยับทักทาย

        

         " ขยับให้กูหน่อยซิ" พี่ริวร้องขอ ผมทำตามเหมือนคนโดนคำสาปขยับนุ่มนวลพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าไม่ละสายตา แรงกระตุกที่กลางตัวยังส่งอารมณ์มาให้ตลอดผมกัดฟันกลั้นเสียงคราง สายตาที่เคยนุ่มนวลเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ทันที มือขยับแรงจนผมจะทนไม่ไหว

    

           " อ๊ะ!! อืม.." หลุดเสียงน่าอายออกมาแผ่วๆ รอยยิ้มเจ้าชายของพี่ริวเดาไม่ออกว่ากำลังเยาะเย้ยหรือพอใจกับสิ่งที่ผมทำ แล้วรุ่นน้องอย่างผมจะทำอะไรได้


          "มึงแมร่งอ่อน! กูยังไม่ทันทำอะไรเลย"  ไม่ทำห่าอะไรล่ะ มึงชักแรงจนกูจุกไปหมด จะปั่นหัวกันไปถึงไหน

 

 


EP.3

ริว

Ryuu's Part

 

                " ขยับให้กูหน่อยซิ" อารมณ์ตอนนี้ผมเผลอร้องขอ ทั้งที่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ทุกคนอยากเข้าหาก็ผมทั้งหล่อรวยสะดุดขนาดนี้ แถมมีดีกรีเป็นหมอหนุ่มอนาคตไกลอีกตังหาก ผมเรียนกลไกร่างกายมนุษย์มาเพื่อสิ่งนี้

( เพื่อรู้จุดเสียวทุกส่วนบนร่างกาย)


                 ไอ้เด็กนี้มันคงคิดว่าผมจำไม่ได้มั่ง ก็บอกแล้วไงว่ามึงต้องชดใช้มาเป็นตัวตลกให้กู ขนาดวิ่งหนีไปแล้วผมก็ยังหามันเจอ ปล่อยตัวซะจำเกือบไม่ได้ แต่ใครจะลืมลงริมฝีปากแดงระเรื่อกับแก้มใสๆ แบบนั้น


                " มึงเขินหรอวะ แดงไปทั้งตัวขนาดนี้" เราช่วยกันขยับมือส่งอีกคนให้ปลดปล่อย แต่มันเหมือนต่างคนต่างทำจนผมอึดอัด(มึงเงียบจนกูหมดอารมณ์ รู้ตัวเปล่า?) ผมเริ่มชวนมันคุย มันยังก้มหน้ากลั้นเสียงอายไม่ยอมปล่อยตัวเองไปกับความเสียวซ่านที่ผมมอบให้


                " ไม่ชอบหรอวะ ไม่เห็นมึงครางเลย" ผมถามเพราะเริ่มสงสัย มือนิ่มหยุดชักดึงทันทีเงยหน้ามองผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ


                "งั้นกูหยุดก็ได้" ผมสะบัดเสียงใส่อย่างไม่พอใจ เห็นอย่างนี้ผมก็เชี่ยวพอตัวนะครับ แถมศึกษามาอย่างดีว่าส่วนให้ในร่างกายที่กระตุ้นง่าย ผมทำให้มันอย่างนุ่มนวล ต่างจากมือเงอะงะทำๆ หยุดๆ น่ารำคาญชะมัด

               

                " เดี๋ยว อีกนิดนึ่งซิ" ประโยคแรกหนังจากมันเงียบไปนาน ก้มหน้าพูดเหมือนหวาดกลัว ไม่รู้ว่ากลัวผม หรือกลัวผมหยุดทำกันแน่ ผมยิ้มเหยียดอย่างพอใจ


               "ร้องออกมาดิ กูไม่รู้ว่ามึงรู้สึกยังไง" ผมยังแกล้งต่อ ปัดมือมันออกจากของผมอยากให้มันใช้เวลาอยู่กับตัวเอง มือมันปิดปากพยายามกลั้นเสียงเบี่ยงหน้าหลบสายตาผม ยิ่งหน้าแกล้งเข้าไปอีก จังหวะสุดท้ายผมใส่สุดข้อ แววตาพริ้มหวานจ้องผมเหมือนผมทำอะไรถูกใจ มันครางต่ำในลำคอแผ่วเบา แต่ก็ไม่เบาเกินไป เสียงหวานหูจนผมอยากหยุดไว้แค่นี้จริง

              

              " โทษทีกูเมื่อยแล้ว มึงต่อเองแล้วกันตามสบาย" ผมลุกออกจากอ่างมาหน้าตาเฉย จากที่อยากแกล้งทำไมผมรู้สึกแปลก ใจเต้นแรงตามร่างหนาเกร็งตัว แววตาที่มันมองผมทำให้ภายในเต้นแรงเห่อร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


ริว : "เสื้อผ้ากู มึงเลือกใส่ได้เลย"

ริว : "เดี๋ยวกูไปข้างนอก มึงกับบ้านเองได้ใช่ไหม"

นาโน : "กูขอ..."  # อึกอักพูด

ริว : "ไม่ได้"  # ตอบกลับทันที


                " ไอ้เด็กนาโนมันจะขออะไรวะ น่าจะฟังมันพูดให้จบก่อน" ตอนแรกแค่สับสนกับตัวเอง แต่ตอนนี้สมองคิดแต่เรื่องมัน เมื่อกี้น่าจะฟังมันพูดให้จบจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดอยู่แบบนี้

   

               " ริว เร่งกูจังแล้วนี่มึงอยู่ไหน" เพื่อนผมกรอกเสียงจิกมาแต่ไกล ปกติก็เที่ยวทุกคืนครับแต่วันนี้ให้พวกมันออกมาไวกว่าปกติ เพราะผมรู้สึกแปลกๆ เลยไม่อยากอยู่ในห้องนั้นกับไอ้อ้วนนาโน


              " กูอยู่หน้าร้านแล้ว จอดร้านแป๊บ" ร้านประจำผมเป็นของเฮียรุ่นพี่ในกลุ่มที่ชอบแต่งรถด้วยกัน พวกเรามีห้องวีไอพีจะได้ไม่ต้องไปนั่งร่วมกับคนอื่น ไม่ได้เรื่องมากนะครับแต่พวกผมเวลาเมาไม่มีใครปกติสักคน


กร : "นึกไงเรียกกูมาเร็วจังวะ กูยังไม่ได้เข้าบ้านเลย"

ริว : "เออน่า!! แล้วนี่มึงมาไง"

กร : "แท็กซี่ดิ กูแยกกับเมียเพราะรีบมาหามึงเลยนะเนี่ย"

ริว : "เออเดี๋ยวกูไปส่ง แล้วคนอื่นล่ะวะ"

กร : "ไอ้ไอซ์มาแล้วอยู่หลังร้าน ไอ้นายอยู่กับหญิงโน้นอะ"  # พยักหน้านำ

ริว : "ไหนวะ คนนั้นอะหน้าคุ้นๆ เด็กวิทศวะมอกูวะ"  # มองตาม

กร : "แค่คุ้นพอ มึงอย่าเสือกไปแย่งมันจีบเชียว"

กร : "เป็นเพื่อนที่ดี ควรสนับสนุนให้เพื่อนมีแฟนนะครับ"

 ริว : "เออ!! กูรู้แล้วน่า"

กร : "โทษๆ กูก็ลืมไปว่ามึงมีน้องรักแรกพบของมึงแล้ว"  

ริว : "หยุดเลย พูดอะไรของมึง"  # ร้อนตัวเถียง

กร : "ก็น้องที่จูบมึงกลางห้างไง มึงเล่าให้กูฟังเป็นสิบรอบแล้ว"

ริว : "กูเล่าบ่อยขนาดนั้นเลยเหรอวะ" 

กร : "เวลามึงไปเดินสยามที่ไร ก็เล่าทุกรอบอะ"

กร : "เล่าจนกูนึกว่าได้เสียกับน้องมันแล้วซะอีก"

ริว : "เว่อร์แล้วมึง" 

                 ผมแสร้งมองไปทางอื่นกลัวไอ้กรมันจับได้ว่าผมกำลังยิ้ม ทอดสายตาไปเรื่อยๆ มองแสงสีฟังเพลงเพราะคลอสร้างบรรยากาศ สะดุดตาที่ผู้หญิงคนนั้นดูใกล้ชิดกับไอ้นายเหลือเกินเหมือนคนคบกันมาแรมปี กินตับกันไปร้อยรอบแล้ว ไหนว่าเพิ่งจีบกันไงวะทำไมถึงเนื้อถึงตัวจัง หรือมีแค่ผมที่ถือเรื่องแบบนี้ น้องเค้าตอนนี้กับตอนใส่ชุดนักศึกษาต่างกันเหลือเกิน

               

                " ไงไอ้นาย กว่าจะแยกจากเมียมึงมาได้นะ" ผมรีบแซวเมื่อเห็นมันเดินยิ้มมาแต่ไกล ร่างบางไร้กล้ามเนื้อ สูงสัก 175 ได้ตัวเล็กสมส่วนขาวตี๋แถมยังซิงอีกตั้งหาก พวกผมรีบคว้ามันมาซักถามอย่างสนใจ


ไอซ์ : "ไปหามาจากไหนวะ โคตรน่ารักเลย"

กร : "เออจริง!! กูดีใจด้วยนะ เพื่อนกูจะได้สละซิงสักที"

ริว : "ไม่เคยแล้วมึงจะทำได้เหรอวะ"

นาย : "ทำอะไร พวกมึงก็พูดไปเรื่อย คนนี้กูจริงจังโว้ย"

ไอซ์ : "แต่เท่าที่กูดู ถ้าคืนนี้มึงไม่ชวนเค้าขึ้นห้องมึงได้จบแน่"

กร : "ทำไมวะ"

ไอซ์ : "กูดูเค้าเหมือนพวกเก็บแต้มวะ"

กร : "สัส จริงดิ!! งั้นเลยหรอวะ"

ไอซ์ : "ไม่ต้องห่วง มึงนอนเฉยๆ เดี๋ยวเค้าก็ทำมึงเองแหล่ะ"

นาย : "บ้ามึง เพชรเค้าไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก"

ไอซ์ : "พนันกับกูไหม กูมองไม่พลาดถ้าเค้าชวนมึงไปต่อ มึงแพ้ตกลงเปล่า"

ริว : "กูก็ว่าเค้าแปลกๆ วะ"

นาย : "มึงก็คิดเหมือนไอ้ไอซ์หรอวะ"

ริว : "เปล่า กูว่าเค้าเหมือนกระเทย มึงไปลองแล้วมาบอกกูมั่งแล้วกัน"

กร : "สัส โชคสองชั้น เปิดซิงครั้งแรกก็ได้ข้างหลังเลย กูยังไม่เคยได้เลยนะมึง"

นาย : "พวกมึงอำกูเปล่าเนี่ย กูไปดีกว่า"

ไอซ์ : "ไม่เชื่อกูก็ตามใจมึง"


                อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งเกลียดพวกผมนะครับ ผู้ชายเวลาอยู่กันในกลุ่มก็เมาท์เรื่องสาวๆ เหมือนผู้หญิงนั้นแหละ แต่เราจินตนาการล้ำกว่าเยอะ อยู่ที่ประสบการณ์ใครจะมากกว่ากัน สุดท้ายไอ้นายก็ยกมือส่งซิกว่าเค้าชวนมันไปต่อ ผมส่งไลน์ไปกำชับให้มันพกถุงติดไปด้วย เผื่อจำเป็นจะได้หยิบมาใช้ทันเวลา


ไอซ์ : "อ้าว!! ไอ้นายไปไหนแล้ว"

ริว : "ไปแล้ว มึงมั่วแต่ไปอัดกันในห้องน้ำนานสองนาน เสียงดังมาถึงนี่"

ไอซ์ : "ทำไงได้วะ กูมันคนใจดีกับสาวๆ ใครขอท่าไหoกูจัดให้ได้หมดอะ ”

ริว : "ก็ดี กูจะกลับแล้วเนี่ย เดี๋ยวต้องไปส่งไอ้กรอีก"

ไอซ์ : "อะไรวะ เพิ่ง 5 ทุ่มกว่ามึงจะกลับกันแล้ว"

ริว : "เออ!! ไอ้กรเมียมันตามหลายรอบแล้ว”

ริว : "กูไปละ"


                 แค่คิดก็เหนื่อยแล้วนี่ผมต้องขับรถไปส่งไอ้กรเส้นตลิ่งชันโน้น มืดก็มืด เปลี่ยวก็เปลี่ยว ขับออกจากตัวเมืองมาเริ่มไม่เหลือเพื่อนรวมทางเลย ไอ้กรก็เมาหลับไม่ได้สติ ผมเลือกออกมาทางเส้นปิ่นเกล้าขับมาเรื่อยๆ จนถึงตลิ่งชันแล้ว


                " เอ๊ะ!! หัวเกรียนๆ นั้นคุ้นวะ" รีบแตะเบรกใส่เกียร์ถอยหลังกลับไปดู เด็กหัวเหม่งที่ผมเพิ่งแยกจากมันมานั่งรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมย์อย่างไร้จุดหมาย นี่มันเที่ยงคืนแล้วไม่มีรถเมย์แล้วมั่ง ผมทำให้มันลำบากหรือเปล่า แต่ก็สมควรก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าบ้านมันไกล

             

               ผมจอดรถอยู่หน้ามันเกือบ 5 นาทีแล้ว มันยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาดูเลย เอาแต่ก้มหน้าแบบนี้มึงจะได้รถกลับบ้านไหม


              "จอดไมวะมึง" ไอ้กรถามด้วยความสงสัย ผมพยักหน้าให้มันมองตาม หน้ามันมีแต่เครื่องหมายคำถาม แต่มันคงขี้เกียจพูดเลยบีบแตรแทน นาโนเงยหน้ามาเจอรถผมแต่มันยังนิ่ง ผมเลยต้องยอมลดกระจกลงไปคุยเอง


             "ขึ้นมา เดี๋ยวกูไปส่ง เร็วๆ" หน้าเอ๋อของเด็กนั้นเคลือบแฝงไว้ด้วยความดีใจ รีบร้อนขึ้นมาบนรถทันที ผมแอบมองจากกระจกส่องหลังเห็นรอยยิ้มของมันครั้งแรก..โถ่!! ใจกูจะเต้นแรงไปไหนเนี่ย


กร : "แล้วไมมึงไม่ลากมันไปร้านด้วยวะ ให้มานั่งรอมืดๆ ทำไม"

ริว : "บ้า กูไม่ได้นัดกัน กูบังเอิญเจอ"

กร : "บังเอิญ ?"

ริว : "เออ!! บังเอิญ กูยังไม่รู้เลยบ้านมันอยู่ไหน"

กร : "กูก็ไม่ได้ถามว่าบ้านอยู่ไหน"

กร : "กูบอกว่าทำไมไม่พาน้องมันไปด้วย"

ริว : "ก็บอกว่ากูเพิ่งเจอเนี่ย"

กร : "ริว กูเพื่อนมึง กลิ่นแชมพู เสื้อ กางเกงอีก ของมึงชัดๆ"

กร : "จะบอกว่าเพิ่งเจออีกไหม"

ริว : "......"   # รู้ทันกูตลอด


                บรรยากาศในรถเงียบจนได้ยินเสียงแอร์ ผมมองกระจกหลังแล้วก็ขำ ร่างอ้วนหนาพยายามยัดตัวเองลงซอกเฟอร์รารี่แคบๆ นาโนมันคงอึดอัดน่าดูความมืดยิ่งขับให้ผิวมันสว่างขาวละเอียด ผมมองเพลินรู้สึกดีจัง


              " ขับงี้เมื่อไรจะถึง เมียกูจิกจะสิบมิสคอลแล้วเนี่ย" ผมรีบขับไปส่งไอ้กรทันที เพราะเด็กอ้วนข้างหลังก็หลับสลบไปแล้ว


             "มึงๆ มานั่งหน้าดิ" ผมปลุกให้มันย้ายมานั่งหน้า บ้านมันอยู่แถวเวตเกทมืดและเปลี่ยวดีจริงๆ โชคดีที่ผมมาส่งไม่งั้น ผมคงเป็นห่วงมันมาก


ริว : "แล้วนี้ พรุ่งนี้มึงไปมอยังไง"

นาโน : "ไปรถเมย์ดิ ผมไม่ได้รวยเหมือนพี่นะ"

ริว : "ออ งั้นกูค้างกับมึงละกัน พรุ่งนี้ได้ไปพร้อมกันเลย"

นาโน : "ไม่เอา"

ริว : "กูขี้เกียจแล้ว ไปๆ ขึ้นห้อง"


                มันเดินเว้นระยะห่างเกร็งไม่กล้าขัดใจผม ยอมพาเดินเข้าห้องนอน ผมล้มตัวนอนกลิ้งอย่างเหนื่อยเพลีย แอลกอฮอร์ยังกรึ่มในร่างยิ่งชวนหลับเข้าไปใหญ่ หยิบมือถือมาสไลด์ปิดเครื่อง


             " ถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวให้กูด้วยนะ" ผมบอกเสียงเรียบหน้าตาเฉย แต่นาโนสิหน้าเหวอมาก


                 ปล่อยให้มันถอดออกครบทุกชิ้น ผ้าเย็นไล่เช็ดให้อย่างลวกๆ ผมรู้สึกตัวตื่นตอนที่เตียงเด้งเหมือนมีน้ำหนักใครเพิ่มเข้ามา


               " ฝันดีนะมึง" ผมหันไปบอกมัน แผ่นหลังกว้างพลิกตัวมาตอบกลับอย่างคนมีมารยาท


              " ครับ"  # ตาแววใส ทำหน้ายังงี้อีกแล้ว ผมอดใจไม่ไหวขยับตัวไปปิดปากมันทันที สัมผัสนิ่งค้างเหลือเพียงเสียงใจเต้นแรง ผมเม้นปากเน้นๆ เพียงครั้งเดียวแล้วผละออก


              "อย่าคิดว่ากู จำมึงไม่ได้นะ" ไม่รู้ว่าตอนนี้มันทำหน้ายังไง แต่ผมหลับตาสนิทกลั้นริมฝีปากไม่ให้คลี่ยิ้มเหมือนที่ใจต้องการ

 

 


EP.4

อกหัก

Nano's Part

               

               ผมล่องลอยไปกับการกระทำที่ไอ้คนหน้าหล่อทำให้ เป็นใครก็ต้องเคลิ้มกันทั้งนั้นแหละ สัมผัสนุ่มนวลเหมือนรู้ไปหมดว่าผมชอบแบบไหนอย่างไร มือนิ่มคลึงส่วนแข็งในร่างจนปั่นป่วนไปหมด แล้วมันก็หยุดเอาดื้อๆ ปล่อยผมให้ค้างอึนด้วยความไม่เข้าใจ


               " กูคงเป็นตัวตลกจริงๆ" เหตุผลที่เค้าต้องการใกล้ผม เพราะเค้าจำได้แล้วหรือเปล่าว่าผมคือเด็กคนนั้น คนที่อยากแกล้งให้เป็นตัวตลก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่เค้าก็ทำสำเร็จแล้วแหละ เพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผมยังคิดเรื่องพี่เค้าไม่หยุดเลย

               

               ดึกปานนี้จะมีรถกลับบ้านไหมเนี่ย เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกมั่ง มืดวังเวงยิ่งสายตาสั้นๆ อยู่มองอะไรก็ไม่ค่อยชัด แว่นหนาเตอะอยู่แล้วอาจจะต้องเปลี่ยนให้มันหนากว่าเดิม เสื้อยืดตัวใหญ่สุดในตู้ผมยังใส่แทบไม่ได้ ดูสภาพตัวเองตอนนี้ซิ กางเกงบอลย้วยๆ กับเสื้อสีแดงรัดติ้วน่าเกลียดที่สุด เพิ่งรู้ว่าผมก็มีก็ซิกแพค เนินอกขึ้นสองก้อนกลม พุงพุ้ย ตูดบาน หน้ากลม ครบหกยังครับ

              

                สิวเกรอะเริ่มคันเพราะโดนแชมพูล้างรถ สภาพตอนนี้นั่งที่เปลี่ยวๆ ยังปลอดภัยเลย เสียงแตรรถเรียกทำให้ผมเงยหน้ามอง เฟอร์รารี่คุ้นตาจอดลดกระจกลงเรียกผม เดินเข้าไปนั่งในซอกแคบๆ ของรถหรูอย่างอึดอัด แถมคนที่มาด้วยอีกคนก็พูดไม่หยุด สรุปพี่ริวจะค้างด้วยผมไม่ได้เต็มใจแต่รู้สึกว่ามีเรื่องอยากเคลียกับเค้า


               คนเมาเริ่มไม่มีสติหลับสนิทอย่างเหนื่อยอ่อน ผมสีน้ำตาลพลิ้วสลวยจมูกคมสันปากสีส้มฝาดน่าหลงใหล หน้าตาก็ดีทำไมดุจังแถมยังชอบแกล้งผมด้วย ผมกำลังถอดเสื้อผ้าเช็ดตัวให้พี่ริวอยู่ ร่างแกร่งอกผายสมวัยพาให้ผมจินตนาการถึงตอนอยู่ในอ่างน้ำด้วยกัน


                " คิดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย"

                " ครับ" ผมเผลอปากตอบเพราะไม่รู้ว่าตอนนั้นผมจะรับมือกับใจที่เต้นแรงยังไงดี ริมฝีปากส้มฝาดเคลื่อนเข้ามาใกล้สัมผัสค้างไว้แล้วผละออก นี่เค้ามีสติอยู่หรือเปล่า ทำไมบางทีก็ดูนุ่มนวลแสนดีแต่บางทีก็กวนประสาท


                " อย่าคิดว่ากูจำมึงไม่ได้นะ ทำผิดแล้วยังวิ่งหนีเหมือนคนขี้ขลาด กูรังเกียจคนอย่างมึง" เสียงของพี่ริวบาดลงไปในความรู้สึก ผมรู้สึกแย่กับตัวเองอยู่แล้วมาเจอคนพูดตรงๆ ว่ารังเกียจผมยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ผมควรทำยังไงดี?


นาโน : "ผมขอโทษพี่ ผมแค่กลัว"

ริว : "กลัวกูเนี่ยนะ"

นาโน : "ก็พี่ตาดุยังกับมาเฟีย"

ริว : "กลัวจนต้องวิ่งหนีไป ไม่สนใจว่าคนอื่นเค้าจะมองกูยังไงเลยหรอ"

นาโน : "ก็คนมันเยอะ ผมก็อายด้วย"

ริว : "แล้วกูไม่อายหรือไง"

นาโน : "คือผม.. จะให้ผมชดใช้ยังไงก็บอกมา"

นาโน : "ตอนนี้ผมพร้อมเป็นตัวตลกให้พี่แล้วแหละ"

ริว : "กูไม่ได้ต้องการมึงตอนนี้ กูต้องการมึงตอนนั้น"

นาโน : "แล้วมันต่างกันตรงไหน"

ริว : "ความรู้สึกกูไงที่ต่าง"



                เหตุการณ์วันนั้นหลังจากที่ปากสัมผัสกัน ผมก็น้ำตาเอ่อไหลทำอะไรไม่ถูก พอร้องไห้ออกมาคนยิ่งรุมมองซุบซิบกันมากขึ้น พี่ริวยืนนิ่งไม่พอใจที่ผมน้ำตาแตก แรงกระชักแขนปากพร่ำบ่นให้ผมรับผิดชอบ ยิ่งทำให้ไทยมุงซุบซิบกันหนัก ผมรีบวิ่งหนีไม่คิดชีวิตเหลือแค่พี่ริวกับผู้ร่วมในเหตุการณ์อีกนับร้อยชีวิต

 

                " นาโน ตื่นมารีวิว ว๊าย!!" เสียงตะโกนเรียกมาแต่ไกลของพี่ไมโคร ตามด้วยเสียงว๊าย!! คีย์สุดปี๊ดมันก็น่าตกใจอยู่เพราะตอนนี้ร่างหนาๆ นอนซบอยู่แนบอกอุ่นของพี่ริว แถมพี่ริวเปลือยไม่ห่มผ้า โชว์เนินปั้นท้ายอีกตังหาก ผมรีบดึงผ้าขึ้นปิดให้ทำมือบอกให้เงียบเสียงแล้วลากพี่ไมโครไปคุยไกลๆ แววตาอยากรู้อยากเห็นนี่น่าหมันไส้ชะมัดผมพูดอะไรนางก็ไม่เชื่อสักอย่าง


ริว : "ไปไหนมาวะ กูตื่นมาไม่เจอมึงแมร่ง!!"

นาโน : "ไปอาบน้ำมา พี่จะอาบไหม"

ริว : "เหอะ เดี๋ยวกูค่อยอาบที่บ้าน"   # กดเปิดมือถือ

ริว : "ไอ้นายมีอะไรวะ โทรมาเป็นสิบสาย"   # พูดคนเดียว

             ทุกวันผ่านไปเป็นปกติ ผมแทบจะเป็นเบ้คอยดูแลซื้อข้าวซื้อน้ำตามติดพี่ริวตลอด เพราะอยากรับผิดชอบที่วันนั้นชิ่งหนีออกมา ยอมทนให้พี่ริวจิกหัวใช้ไม่พอ ยังยอมให้เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มเค้าใช้งานเยี่ยงทาสด้วย


กร : "ให้ไว้หน่อยดิวะ กูจะกินวันนี้นะไม่ใช้พรุ่งนี้"

นาโน : "ผมก็รีบแล้วพี่ คนในโรงอาหารเยอะจะตาย"

กร : "เฮ้ยริว!! เด็กมึงเถียงกูวะ"

ริว : "เร็วๆ กูหิวแล้ว"

คิม : "ถ้าพวกมึงสั่งร้านเดียวกันนะ ได้กินไปนานแล้ว"

คิม : "หิว แต่เสือกแดกคนละร้าน ไม่สงสารน้องมันหรือไง"

ริว : "สงสารทำไม มันเต็มใจ"

คิม : "ไอ้นาโนมันน้องรหัสกู ไม่ใช้เบ้ให้พวกมึงจิกใช้นะ"

ริว : "งั้นมึงถามมันเลย ว่าเต็มใจทำให้กูหรือเปล่า"

นาโน : "ผม.. ผมเต็มใจทำครับ"

คิม : "อย่าบอกนะที่มึงสองคนตัวติดกันเนี่ย มึงคบกันอยู่"

คิม : "นาโน ไปหลงคารมคนอย่างไอ้ริวได้ไงวะ"

นาโน : "ไม่ใช่พี่ ผมไม่ได้.."   # พูดไม่ทันจบ

ริว : "คบบ้าคบบออะไรวะ มึงดูสารรูปอย่างมันกับกู"   # มองเหยียดนาโน

ริว : "กูคงไม่ตาบอด ลดตัวไปคบกับคนอัปลักษณ์อย่างมันหรอก"   # ลอยหน้าพูด

ริว : "แค่ยอมคุยด้วย ก็เกินจะทนแล้ว"

กร : "พอๆ มึงพูดเกินไปแล้ว เกรงใจน้องมันบ้าง"   # พยายามห้าม

ริว : "เกรงใจทำไมวะ หรือมึงก็คิดว่ากูคบกับมัน"  

กร : "เออๆ ไม่คบก็ไม่คบ นาโนมึงมานั่งกินข้าวเหอะ"

นาโน : "พวกพี่กินก่อนเลย เดี๋ยวผมขอตัวก่อน"

ริว : "คนน่ารังเกียจอย่างมึง ก็ทำได้แค่วิ่งหนีล่ะวะ ไปพ้นๆ ตากูไป"



                คำก็น่ารังเกียจสองคำก็อัปลักษณ์ พี่คงลดตัวมากเลยนะที่มาคุยกับผม เดินกับผม นอนห้องผม อาบน้ำกับผม จูบผม ไม่ใช่ซิ.. แค่ปากแตะผม หลายวันที่ผ่านมาผมรู้สึกดีขึ้น ไม่เกร็งเหมือนวันแรกๆ แอบคิดว่าพี่เค้าคงหายโกรธแล้ว แต่พอมาวันนี้ คำพูดเหล่านั้นบอกผมว่าความรู้สึกเค้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย กริ๊งงง..


ริว : "มึงอยู่ไหน"  

ผม : "ถึงบ้านแล้วครับ"

ริว : "ใครให้กลับ"

ผม : "รังเกียจผมก็อยู่ห่างๆ ผมเหอะพี่"

ริว : "ผมว่านะ ที่พี่โทรมาเนี่ย"

ผม : "พี่ทำเหมือนเราคบกัน อย่างเพื่อนพี่ว่าเลย"

ริว : "ไม่ มึงก็แค่เบ้กู"

ริว : "กูเรียกให้มา มึงก็ต้องมา"

ผม : "หรอ งั้นถ้าโทรมาเพื่อเรียกให้ผมไปหา พี่คงชอบผมมากซินะ"

ริว : "ใครจะชอบคนอย่างมึง"

ริว : "กูแค่จะบอกว่าที่หลัง เจอกูอย่ามาทักอีก"


                ผมพูดตีรวนไปอย่างนั้นยิ่งคุยเราก็ยิ่งแรงใส่กัน ผมกลั้นเสียงให้ปกติทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับคำปฎิเสธิเสียงแข็งท่าทีรังเกียจจริงจัง แต่พอเค้าวางสายไปแล้วผมกลับวูบไหวชาไปทั่วร่างจนอยากจะร้องไห้ ในหัวคิดวกวนอยู่แต่คำว่า "มันจบแล้ว มันจบแล้วจริงๆ"


พี่ไมโคร : "นาโน ไป.."

พี่ไมโคร : "เฮ้ย!! แกเป็นอะไร"

นาโน : "เปล่า ผมไม่ได้เป็น"

พี่ไมโคร : "ไม่ได้เป็น!! แล้วร้องไห้ทำไม"

นาโน : "พี่ผมมันอัปลักษณ์ น่ารังเกียจมากไหม"

พี่ไมโคร : "ไปฟังใครพูดมาเนี่ย"

นาโน : "พี่ริวด่าผม"

พี่ไมโคร : "เค้าก็ด่าแกทุกวันอยู่แล้วนิ แกก็เล่าให้พี่ฟังบ่อยๆ"

นาโน : "ใช่ แต่วันนี้ด่าจริงจังมาก แถมห้ามผมไปเจอเค้าอีกด้วย"

พี่ไมโคร : "เดี๋ยว!! นี่คบแบบพี่น้องหรือแฟนกัน"

พี่ไมโคร : "ทำไมแกต้องเสียใจขนาดนี้ด้วย"

นาโน : "ก็พี่น้องดิ"

พี่ไมโคร : "แน่ใจ"

พี่ไมโคร : "ตอนที่เห็นพวกแกนอนกอดกัน ยังไม่น่าสงสัยเท่าตอนนี้เลย"

นาโน : "สงสัยอะไรพี่"

พี่ไมโคร : "ก็สงสัย ว่าแกชอบริวแล้วนะซิ"

นาโน : "บ้าหรอพี่ ผมเป็นผู้ชายจะชอบผู้ชายด้วยกันได้ไง"

พี่ไมโคร : "งั้นถ้าเป็นผู้ชาย แล้วร้องไห้ทำไม"

นาโน : "ก็.."


                นางยังไม่ทันจะฟังคำตอบผมด้วยซ้ำ เดินยิ้มมีเลศนัยออกไป แล้วกลับเข้ามาอีกครั้งกับอาหารเสริมกล่องหนึ่ง


              "อะ เอาไปลอง" ข้างกล่องเขียนว่าช่วยเผาผลาญไขมัน นี่ถ้ากินไอ้นี่แล้วไม่มีไขมัน คนในประเทศเค้าก็ผอมกันหมดแล้วซิ


             "ไม่เอาพี่ ผมไม่ได้อยากผอม"

            

             " ถ้าวันนี้แกไม่ได้ชอบริว แกก็ควรรีบดูแลตัวเองซะ ทำหน้าให้หล่อใสแล้วกลับไปเชิดใส่เค้า แต่ถ้าวันหนึ่งแกคิดได้ว่าชอบริวขึ้นมา แกก็ไปบอกรักซะเลยเห็นไหมมีแต่ได้กับได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลยแกก็เป็นแค่คนน่ารังเกียจสำหรับเค้า ก็เท่านั้นเอง"

               

             คำพูดจี้ใจทำเอาผมเถียงไม่ได้ ทุกอย่างมันก็ชัดเจนอยู่ในกระจก รอบเอวอ้วนเผะ หน้ากลมนมย้อย ตูดห้อยไอ้นั้นเหลืออันนิดเดียว ถ้าวันไหนกินอิ่มๆ แทบมองไม่เห็น สารรูปอย่างผมก็ขี้เหร่จริงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับน่ารังเกียจนะ

 

              เช้าวันใหม่ผมไปมหาลัยแบบเบลอๆ มารู้สึกตัวอีกทีก็เดินอยู่คณะแพทย์ นี่เรามาตามความเคยชินใช่ไหมสม๊งสมองไม่ได้เอามาหรือไง


           "ไอ้นาโน มาหาริวหรอ" เสียงเล็กๆ แหบต่ำเหมือนคนใช่เสียงหนักเอ่ยทักผม


          "เปล่าครับ พี่นายไม่มีเรียนหรอฮะ"


นาย : "มีดิ แต่กูมาสาย"

นาโน : "อืม..สภาพพี่เหมือนเพิ่งตื่นเลย"

นาย : "เออ!! กูไม่ค่อยได้นอนวะ ไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนหน่อยดิ"


ไลน์!! ไลน์!!


                " ผมชวนเพื่อนไปกินด้วยได้ไหมมันทักมาพอดี" พี่นายพยักหน้าส่งๆ เหมือนไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าผมพูดอะไร ผมเคยเจอแกแค่ครั้งสองครั้งเองไม่สนิทเท่าไรด้วย ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี ให้เพชรมานั่งด้วยน่าจะดีกว่า พี่นายก็เหมือนเดิมนั่งนิ่งชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว ไม่ยอมกระดิกตัวทำอะไรเหมือนกันทั้งกลุ่ม


พี่นาย : "มึงนี่ก็ดีเนอะ เป็นน้องรหัสไอ้คิมยังเสือกยอมดูแลพวกกูด้วย"

นาโน : "รุ่นพี่ไง แก่ๆ กันแล้วผมเลยไม่อยากให้เดินมาก"   # แกล้งพูด

พี่นาย : "ปากดีอย่างที่ไอ้ริวมันบอกจริงๆ นะมึงเนี่ย"

นาโน : "พี่ริวพูดถึงผมด้วยเหรอ"   # อยากรู้

พี่นาย : "กูได้ยินเรื่องมึงทุกวัน จนกูเบื่อ"

พี่นาย : "แล้วที่พี่ๆ เค้าชอบใช้มึงอะ เค้าอยากแสดงความรักรู้ตัวไว้ด้วย"

นาโน : "รักยังไงพี่"

พี่นาย : "ก็..."

นาโน : "เฮ้ย!! เพชรทางนี้"   # เห็นเพชรเดินมาพอดี

 

                ผมเงยหน้าเห็นเพชรเดินมาพอดี รีบตะโกนเรียกจนไม่ทันฟังว่าพี่นายพูดอะไรต่อ ตอนที่แนะนำพี่นายให้รู้จักเพชรเพื่อนผม บรรยากาศมันอึดอัดมากพี่นายเงียบสนิทไม่ปริปากพูดใดๆ เพชรมาถึงก็เลือกนั่งฝั่งเดียวกับพี่นายพลอยนิ่งเงียบไปด้วย เหลือแค่ผมกับยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี


             " พี่นายเอาอะไรเพิ่มอีกไหม เดี๋ยวผมไปซื้อให้" ผมเสนอตัวเองให้ออกไปไกลๆ จากสงครามสายตา พี่นายรีบคว้ามือผมไว้ไม่ยอมปล่อย อะไรกันวะ!! มีแต่คนอยากอยู่กับสาวสวยสุดน่ารักอย่างเพชร แล้วอาการพี่นายนี่คืออะไร?

               มือที่จับผมไว้สั่นจนผมรู้สึกได้ไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยง่ายๆ ผมเลยใช้อีกมือประกบทับกำลังจะหยิบมือพี่นายออก รู้สึกถึงสายตาอาฆาตแผ่มาทุกทิศทาง เพชรจ้องจนผมแปลกใจและอีกทาง


              " ไอ้นายเผลอไม่ได้ โดดไม่ยอมชวนกูเลยนะมึง" เสียงพี่กรกับพี่ริวเดินมาร่วมวงด้วย พี่นายรีบปล่อยมือไปกุมหัวแทนเพราะเพิ่งถูกพี่ริวเอาหนังสือฟาดใส่ไปเมื่อกี้ ผมยิ้มขำตามปกติหันไปสบตาพี่ริวทันเห็นรอยยิ้มสดใสสลดลงเบือนหน้าหนี นี่เค้าคงรังเกียจผมมากซินะ

             

              " ผมกลับตึกดีกว่า ไปเหอะเพชร" รีบชวนเพชรให้ออกจากตรงนั้น รู้สึกทนไม่ได้ที่ต้องอยู่ใกล้พี่ริวขนาดนี้ เพชรเดินเบียดเกาะแขนออกมา อย่างน้อยเธอคนนี้ก็ไม่รังเกียจผม


นาโน : " แกว่าเราขี้เหร่ ทุเรศ อุบาศ น่ารังเกียจอะไรประมาณนั้นเปล่าวะ"

เพชร : "ทุกคนก็มีเรื่องน่ารังเกียจซ้อนกันไว้ทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่แกคนเดียวสักหน่อย"

นาโน : "แปลว่าแกก็คิดว่าเราน่ารังเกียจ"

เพชร : "บ้านแกไม่มีกระจกเหรอ ? สภาพขนาดเนี่ย"

เพชร : "คิดว่าหล่อเหมือนจีดราก้อนหรือไง"

นาโน : "แมร่ง!! ก็ตรงเกิน"   # จือปากพูด

เพชร : " สิ่งที่คนอื่นมองเห็นแล้วบอกว่าแกน่ารังเกียจ เพราะเค้าใช้ตามองไง เค้าไม่ได้ใช้ใจมองเหมือนเรา ภายใต้ความอ้วนล่ำสิวเกรอะกัง นายก็เป็นแค่ผู้ชายตัวเล็กๆ ที่สร้างเกราะไว้ป้องกันตัวหลายชั้นก็เท่านั้นเอง"

นาโน : "แก.."

เพชร : "ความน่ารังเกียจของแกมันแก้ไขได้ แต่บางคนแค่จะยอมรับว่าตัวเองแย่ อุบาศเค้ายังทำไม่ได้เลย"

นาโน : "ไม่น่าเชื่อนะว่าแกจะคิดอะไรลึกซึ้งแบบนี้ได้"

เพชร : "ทำไม"

นาโน : "ก็คนที่เพียบพร้อมทุกอย่าง หน้าตาดี เรียนเก่ง บ้านรวย ไม่น่าจะเจออะไรแย่ๆ มากนัก คนที่คิดแบบนี้ได้น่าจะพวกโชกโชนมากกว่า"

เพชร : "แกก็อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นหรือได้ยินมาซิ ขนาดใจตัวเองยังลังเลไม่แน่ใจได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับสิ่งที่คนอื่นแสดงออกมา"

                " สู้ๆ ทุกข์ตรงไหนมากสุดก็ไปแก้ตรงนั้นก่อน" เสียงเล็กเหมือนดัดจริตกำลังพูดคำที่ความหมายซับซ้อนกับผม มันก็จริงอย่างที่เพชรพูด ความน่ารังเกียจของผมแก้ไขได้ แล้วผมก็ทุกข์ตรงนี้มากที่สุดด้วย


                " พี่ไมโคร ไอ้อาหารเสริมพี่เนี่ยมันต้องกินยังไง"(in phone) ผมโทรไปสั่งมาเพิ่ม สอบถามวิธีจนเข้าใจทุกขั้นตอน หาข้อมูลอาหารไขมันต่ำ วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง ส่วนมากคนเราจะอ้วนเพราะปล่อยตัวจริงๆ กินอาหารขยะจนเคยตัว พลัดวันประกันพรุ่งไม่ยอมออกกำลังกาย ผมจัดตารางการทานอาหาร และการออกกำลังกายของตัวเองไว้เรียบร้อย ขนาดเอ็นให้ติดผมยังทำได้ยากกว่าการไดเอทตั้งเยอะ ไว้เจอกับผมคนใหม่นะ..ไอ้พี่ริว



ติดอกติดใจทักหลังไมค์มาได้นะ







ราคา : 220.00
ราคา : 180.00
 
 
  นิยายลดราคา
 
รหัสสินค้า : E002
ชื่อสินค้า : ซีรี่ย์ อ่อยรัก
ราคา : 299.00
ราคา : 200.00
 
รหัสสินค้า : RM002
ชื่อสินค้า : ซีรี่ย์ เผลอ
ราคา : 189.00
ราคา : 79.00
 
 
 
  นิยายพร้อมส่ง
 
รหัสสินค้า : BL001
ชื่อสินค้า : เกลียดดีนัก...จะทำให้รักมากมาย
ราคา : 220.00
ราคา : 180.00
 
รหัสสินค้า : BL002
ชื่อสินค้า : Yes or No
ราคา : 220.00
ราคา : 150.00
 
 
 

Copyright @ 2007-2014 by http://www.shop2thai.com 12677