สนใจ
Ebook จาก Mebmarket คลิกรูปเลยจ้า
ชื่อผลงาน
TGA
รักละมุน
จำนวน
95
หน้า
ราคา
100
บาท
ประเภท
นิยายฺโรมานซ์
บทประพันธ์
เพียงเพลิน
ผู้จัดย่อหน้า /
พิสูจน์อักษร
เพียงเพลิน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/Venus909_writer
สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.
2537
ผลงานชิ้นนี้เป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคล
ห้ามมีการคัดลอก ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วน
หรือทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต
หากต้องการนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะกรุณาติดต่อ เพียงเพลิน (063-7979178)
ลิ้นสากฉกชิมที่เดิมซ้ำๆ
กระดกชิมปุ่มเสียวจนร่างฉันเด้งเร้าราวไร้การควบคุม
ทุกการเคลื่อนไหวของลิ้นร้อนสร้างความรู้สึกหลากหลาย
ทั้งกระสั่นซ่านยามห่อตัวจนปลายแข็งกระดกทิ่ม
ทั้งหายใจไม่ออกยามกลีบปากฟัดติ่งเนื้อ ดูดดุนราวอร่อยเหลือเกิน
พอค่ะ ชญาไม่ไหวแล้ว
แรงมหาศาลทำงานพร้อมกันทุกทิศทาง ฉันไม่อาจทนรับความรู้สึกนี้ได้
เนื้อเต้นใจสั่นระรวยจนสมองขาวโพลนไปหมด ไม่นานความดำมืดก็มาเยือน
คุณ!
คุณ!
ถึงกับสลบเลยหรอ
INTRO
คุณหมอคะ
พี่สาวหนูเป็นอย่างไงบ้างคะ
อาการพี่สาวคุณไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก
อาจจะมีอาการแทรกซ้อนที่ต้องเฝ้าสังเกตอยู่บ้าง แต่ไม่ร้ายแรงอะไร
อาการแทรกซ้อน
คืออะไรคะหมอ
หมอสันนิษฐานว่าพี่ของคุณ
อาจเป็นโรค TGA
โรคอะไรนะคะ
TGA
ความจำเสื่อมชั่วขณะ
Transient Global Amnesia (TGA)
อาการความจำเสื่อมในระยะสั้น
ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1956
มีอัตราเกิดโรคเพียง 5
คน ใน 100,000
คน มักพบในผู้ป่วยที่อายุ 50
ปีขึ้นไป พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย
สาเหตุในทางการแพทย์ยังไม่ได้ระบุแน่ชัด
อาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคลมชัก
,
โรคไมเกรน ,
สมองขาดเลือดชั่วคราว ,
ความเครียด ,
การดื่มแอลกอฮอร์ เป็นต้น
ผู้ป่วยโดยส่วนมากจะมีอาการหลงลืมในระยะสั้น
ไม่เกิน
24
ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นจะหายเป็นปกติเอง
ในทางการแพทย์จึงยังไม่มีวิธีรักษาแน่ชัด
เสียงน้องสาวคนเดียวของฉัน
พูดคุยกับคุณหมอเสียงหล่ออย่างร้อนรน ตอนแรกกะจะแกล้งหลับเพื่อแอบฟังสิ่งที่คนทั้งสองคุยกัน
แต่พอได้รู้ความจริงฉันก็แทบช็อค
มิน่าล่ะ!
ทำไมเรื่องบางอย่าง ฉันนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
ความรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ถาโถมใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน
อาการหลงๆ ลืมๆ ทำให้ทุกอย่างกระทบไปหมด ทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องน้องสาว ฉันใช้ชีวิตด้วยความสงสัยมานาน
จนวันนี้ได้คำตอบแล้ว
ความจำเสื่อม!
เป็นไปได้ยังไงคะ พี่ของหนูยังไม่แก่เลย
เสียงเจื่อนแจ้วของเด็กสาวถามด้วยความไม่เข้าใจ
โรค GTA
ไม่ใช่โรคคนแก่นะครับ ยุคสมัยนี้คนเรามีความเครียดมากขึ้น
อาการของโรคก็จะปรากฏกับวัยทำงานเพิ่มขึ้น เรียกง่ายๆ
ว่ามาจากความเครียดของพี่คุณนั่นแหล่ะ
เครียด เพราะหนูล่ะซิ
ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น
ชีวิตที่เคยสดใสสวยงามทุกอย่างทุกพรากไปพร้อมกับพ่อแม่ของเรา
ฉันกลายเป็นเสาหลักคอยส่งเสียน้อง ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้ญาณินมีชีวิตสดใส แต่เหมือนยิ่งพยายาม
ทุกอย่างยิ่งแย่ลง
แล้วหนูต้องทำยังไงคะ
ตอนนี้ทำได้เพียงเฝ้าระวังครับ
ไม่ต้องกังวลไป
เสียงหมอหนุ่มพูดตัดบทแล้วขอตัวออกไปดูแลคนไข้ห้องอื่น
เสียงญาณินทิ้งตัวนั่งอยู่ไม่ห่าง บ่นพึมพร่ำเดือนร้อนใจ
ทั้งที่คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว
เป็นพี่ที่ดีดูแลน้องได้อย่างที่พ่อแม่ต้องการ
แต่เปล่าเลยตอนนี้ฉันกลับทำให้น้องสาวคนเดียวเครียดหนัก จนเริ่มเดินทางผิด
พ่อจ๋า แม่จ๋า
หนูควรทำยังไงดี เงินทองเราก็ไม่ค่อยมี พี่ยังมาเป็นโรคประหลานนี่อีก
RRRRRRRRRRRing
อืม
พี่ชญาไม่เป็นอะไรมาก
เออแตงกวา!
งานเพื่อนเที่ยวที่แกเคยชวนเดี๋ยวนี้เค้ายังรับอยู่หรือเปล่า
รับหรอ!
ดีเลยฉันสนใจทำ
ที่ไหน
เมื่อไรแกบอกมา
ห้ะ!
วันนี้เลยหรอ
อืม.. ได้ๆ
ญาณินคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทที่ชื่อแตงกวา
ฉันแอบฟังไปเรื่อยจนได้ยินเสียงกุกกัก คล้ายหาของอะไรสักอย่าง ลืมตาแอบมองเห็นเธอกำลังตั้งใจจดอะไรบางอย่าง
ญาติคนไข้คะ
คุณหมอเชิญค่ะ
เสียงคุณพยาบาลพูดแทรกขึ้น
ทำให้ญาณินรีบร้อนออกจากห้องไป เหลือบมองสมุดจดด้วยความอยากรู้
ยัยน้องตัวดีของฉันเนี่ย ยิ่งคิดทำอะไรแปลกๆ อยู่ ต้องดูสักหน่อยแล้ว
23:00
@XXX Hotel
โรงแรมหรอ
ไปทำงานอะไรกัน
หลายเรื่องเลวร้ายวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
จนตอนนี้ฉันคิดเรื่องดีดีไม่ออกเลย แค่คิดความกลัวยังทำร้ายใจมากขนาดนี้
หากน้องสาวที่เหลืออยู่คนเดียวทำอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะทุกข์ขนาดไหน
ไม่ได้ พี่จะไปเอง
งานที่ญาณินทำได้
ฉันก็คงทำได้เหมือนกัน หากตอนนี้เลือกได้ฉันก็อยากเป็นตัวเลือก
ไม่มีพี่คนไหนทนเห็นน้องตกนรกทั้งเป็นได้ อีกอย่างไอ้โรคขี้ลืมของฉัน
...คงพอช่วยรักษาแผลใจ
Chapter
1
ปรีชญา
อ้าว!
พี่ชญาตื่นแล้วหรอ
อืม เพิ่งตื่นน่ะ
ญาณินล่ะไปไหนมา
หนูไปจัดการค่าใช้จ่ายมา
หมออนุญาตให้พี่กลับบ้านได้แล้วนะ
หมอว่าไงบ้าง
เค้าบอกไหมว่าพี่เป็นอะไร
ไม่มีอะไรหรอก
พี่แค่เครียดน่ะ พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆ รู้หรือเปล่า
แค่นั้นเองหรอ
ก็ใช่นะซิ!
เสียงเด็กสาวยังคงร่าเริง
ทั้งที่แววตาวูบไหวไม่กล้าสบตา ฉันไม่ต้อนถามอะไรอีก ยิ้มรับความหวังดีของญาณินทั้งที่ในใจเย็นชาหาทางออกไม่เจอ
เรารีบกลับบ้านกันเถอะ
ตอนค่ำหนูมีนัดกับเพื่อนต่อ พี่อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม
หืมม.. ได้ซิ!
บ่นเหมือนพี่เป็นเด็กไปได้
ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก
ห้ะ!
ว่าไงนะ
ฉันแกล้งย้ำถาม
เด็กสาวแรกรุ่นด้วยอายุเพียง 18
ปี ทำหน้าแบกโลกไว้ทั้งใบ
เธอยังฝืนยิ้มทั้งที่ไม่ค่อยแนบเนียนสักเท่าไร
นิ!
เป็นพี่นะไม่ได้เป็นแม่ หนูจะไปไหนมาไหน ต้องคอยรายงานพี่ด้วยหรือไง
เสียงตะกุกตะกักพยายามพูดเปลี่ยนเรื่อง แสร้งทำท่าทางไม่พอใจ
ทั้งที่แววตาประหม่าเหลือเกิน
จะไปหาเพื่อนที่ไหนละ
พี่ขับรถไปส่งให้ก็ได้
ไม่ต้องหรอก
พี่อยู่บ้านพักผ่อนเหอะ
แน่ใจนะ
พี่ไปส่งเราก่อนไม่สะดวกกว่าหรอ
อย่าเลย!
เดี๋ยวพี่จะกลับไม่ถึงบ้านเปล่าๆ
เราโต้เถียงกันเหมือนปกติ
ญาณินหลุดคำพูดชวนคิดมาหลายประโยค กว่าเธอจะรู้สึกตัวฉันก็ยิ้มเย้ยแสดงอาการรู้ทันออกมาซะแล้ว
โอ๊ยพี่ชญา!
อย่าถามเยอะน่า ญาณินเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รีบกลับบ้านกันเถอะ
อืม ก็ไปซิ!
อยู่ทานมื้อเย็นกลับพี่ก่อนนะ แล้วค่อยไป
สิ่งที่ฉันทำให้ญาณินกิน
มันคืออาหารที่เต็มไปด้วยความรัก
รสชาติคุ้นเคยแต่แฝงความพิเศษชวนหลับใหลอยู่ในนั้น ไม่นานเมื่อยาออกฤทธิ์
น้องสาวที่เอาแต่ตั้งท่าจะออกจากบ้านก็หลับไม่ได้สติ
หากต้องทำร้ายตัวเองเพื่อช่วยพี่ ให้พี่ไปเองเถอะ
ประครองพาญาณินมานอนโซฟาใกล้ๆ
วันเวลาเปลี่ยนเด็กสาวตัวเล็กๆ กลับสูงใหญ่สมส่วนแบบวัยรุ่น
ขนาดร่างกายที่ไม่ต่างกันมาก อาจทำให้ฉันปกป้องเธอได้ไม่ดีนัก
บ่อยครั้งที่ญาณินเองกลับเป็นฝ่ายปกป้องคนเป็นพี่ซะมากกว่า
ซึ่งคราวนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้น
23:00
@XXX Hotel
ที่นี่ซินะ
ฉันขับรถตามจีพีเอสมาเรื่อยโดยไม่รู้ว่าข้างหน้ามีอะไรอยู่
โรงแรมระดับสามดาวชานเมือง ดูเงียบเหงาจนน่ากลัว จอดรถนั่งสูดลมหายใจ
ตั้งสติลบล้างความประหม่า ฉันมักจะลืมเรื่องที่เกิดในตอนกลางคืน
...คืนนี้ก็คงเช่นกัน
เอาเถอะ เดี๋ยวเช้าเราก็ลืมทุกอย่างที่นี่
นั่งปลอบใจตัวเองอยู่สักพัก
ก๊อกๆ ก๊อกๆๆ
ใครอีกคนเคาะกระจกเรียกร้องให้ฉันสนใจ ลังเลไม่กล้าลดกระจกลงมอง
แอบดึงกระชับเสื้อคลุมตัวให้ยิ่งปกปิดร่างกาย
คะ
เด็กที่นายนัดไว้หรือเปล่า
เด็ก... ไหนคะ
ก็เด็กที่นายเรียกมาไง
ใช่หรือเปล่า!
ออ ชะ.. ใช่!
ค่ะ
ใช่ก็ลงมาซิ
นายคอยอยู่นานแล้ว
ชายวัยกลางคนแต่งชุดสูทดูภูมิฐานถามด้วยเสียงสุภาพ
หน้านิ่งเรียบแต่คำพูดเร่งเร้าให้รีบ
รู้สึกตัวอีกที่ก็มาหยุดอยู่หน้าห้องนี้ซะแล้ว
เข้าไปซิ
นายรอนานแล้ว
ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูห้องให้
ใช้สายตากดดันจนต้องก้าวขาเข้าไปตามที่สั่ง ห้องสลัวมีกลิ่นบุหรี่ลอยคลุ้งในอากาศ
เสียงทีวีเปิดดังชัด แต่ฉันกลับฟังไม่ออก
ใครนะ
ดูข่าวเศรษฐกิจภาคภาษาญี่ปุ่นด้วย
คิดความสงสัยในใจ
จนกระทั้งผู้ชายร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำ
มาดูแลผมหรอ
เสียงเรียบเย็นชาไม่ต่างจากคนข้างนอก แถมคนนี้หน้านิ่งกว่ามากไม่มีความเป็นมิตรฉายไว้ให้อุ่นใจเลย
ฉันเลือกพยักหน้าแทนการตอบ
เป็นใบ้หรือไง
นี่หูตึงด้วยไหมเนี่ย
เสียงเรียบในตอนแรก
เริ่มกระแทกเน้นพูดดังจนฉันสะดุ้ง
เปล่าค่ะ
ก็พูดได้นิ
ทำไมตอนผมถาม ถึงทำหน้าคิดหนัก
แหม่!
คนตกอยู่ในสภาพฉันก็ต้องคิดหนักทั้งนั้นแหละ ไม่รู้ว่าต้องมาทำอะไรที่นี้
แถมไอ้คนถามยังใส่เพียงผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างไว้หมิ่นเหม่
มีอะไรให้ฉันทำก็ว่ามา
ใจร้อนจังคุณ
รีบทำเวลาหรือไง
รีบทำเวลาไม่ดีหรือไง
รีบเสร็จจะได้รีบกลับ
ถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ
ก็เห็นใครๆ เค้าชอบทำงานให้เสร็จเร็วๆ จะได้รีบพักผ่อน จะได้รีบกลับบ้าน
แล้วเขาไม่ชอบหรอ
พูดตรงดี
งั้นก็ไปอาบน้ำซะ
อาบน้ำ!
อาบทำไม
อย่ามาแกล้งถามผมให้มากความน่า!
ก็คุณรีบไม่ใช่หรอ ไปซิ!
งานของคุณจะได้เสร็จๆ
นิ่วหน้าใช้สายตาจ้องค้างที่ฉัน
มันเป็นสายตาแบบคาดคั้นจ้องจับผิด พร้อมเดินเข้ามาทีละก้าวอย่างใจเย็น
ฉันยังโต้เถียงราวไม่เกรงกลัว ทั้งที่ใจอยากถอยหนี
ผู้ชายกับผู้หญิงในโรงแรมเค้าทำอะไรกันล่ะ
อย่าบอกนะว่าที่มานี่ไม่รู้!
คือฉัน..
ฉัน
หรือคิดจะขึ้นค่าตัว
.
ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนวัยกว่าเคลื่อนเข้ามาใกล้
นัยน์ตาสีดำขลับเบิกโตจ้องจนฉันไม่กล้าขยับหนี
ปลายนิ้วคลอเคลียข้างแก้ม นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยคลึงริมฝีปากบาง
ฉัน.. อาบมาแล้ว
หลุดปากพูดออกไป สะบัดหน้าหลบสายตา อีกฝ่ายยิ้มเย้ย
ยิ่งขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม นิ้วมือเรียวยาวหยิบเส้นผมสยายขึ้นมาสูดดม
งั้นก็ถอด
ห้ะ!
ตกใจอะไร!
คุณเตรียมพร้อมมาสนุกแล้วนิ
คือฉัน...
เท่าที่รู้งานง่ายเงินดีที่กลุ่มญาณินรับทำคือรับควงออกงานเป็นเพื่อนเที่ยว
เป็นเพื่อนกินให้กับบรรดาเสี่ยขี้เหงา ไม่นึกเลยว่าจะรับเป็นเพื่อนนอนด้วย
นี่ฉันเป็นพี่ที่แย่มาก ทำไมเลี้ยงดูน้องให้ดีกว่านี้ไม่ได้
หรือว่ายังไม่เคย
เปล่า!
ฉันแค่... ยังไม่รู้จักคุณเลย
ต้องรู้จักด้วยหรอ
อีกอย่าง
ผมก็สั่งเอาเด็กใหม่ ไม่ผ่านใครมาก่อนนิ คิดจะยอมแมวหรือไง
นี่คุณ!
ดูจากหน้า
คุณน่าจะอายุมากกว่าผมนะ รสนิยมผมตกต่ำขนาดนี้แล้วหรอ
พอเห็นฉันลืมตัวคุยโต้ตอบปกติ
หมอนี่ก็ยิ่งพูดต้อนจนน่าหมั่นไส้
แววตาเหยียดเชิงล้อเลียนทำงานพร้อมยิ้มมุมปากถูกใจ ฉันรู้ว่านี่คือคำกวนประสาท
แต่อดรู้สึกแย่ไม่ได้
ฉันก็ไม่ชอบเด็กๆ
ไร้เดียงสาเหมือนกัน ขอโทษที่ทำคุณเสียเวลา ฉันกลับล่ะ
กะรีบพูดรีบชิ่งหนี
ในเมื่อเขาไม่พอใจแบบฉัน ก็ไม่ต้องเสียเวลาคุยอะไรกันอีก
ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายก็น่าจะจบ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหลังกลับ
มือแกร่งก็ปรี่เข้ามาคว้าตัวไว้
ว่าผมไร้เดียงสา
แล้วคิดจะหนีหรอ
ร่างถูกดึงไปอยู่ในอ้อมอกเขาทันที่
สันจมูกสูดดมแถมซอกคอ กระซิบเสียงถามแผ่วเบาจนจั๊กจี้
นายไม่ชอบอายุมากกว่า
ฉันเองก็ไม่ชอบเด็กเหมือนกัน แยกย้ายนั่นแหล่ะ ถูกแล้ว!
ด้วยแรงที่พอมีอยู่พยายามดีดดิ้นขัดขืน
ทั้งที่รู้มาสู้เขาไม่ได้
ยิ่งขยับหนียิ่งจมลึกลงไปในอ้อมกอดจนสองถูกแขนแกร่งพันธนาการไว้ทั้งตัว
คิดว่าเดินเข้าห้องผมแล้ว
จะออกไปง่ายๆ งั้นหรอ
ก็ไม่น่าจะยากนะ
ปล่อยซิ!
แสร้งปากดีโต้กลับ
ทั้งที่เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าฉันสั่นขนาดไหน
เขาเริ่มซุกไซ้ใช้ปลายจมูกหยอกเย้าซอกคอขาว สูดดมกลิ่นน้ำหอมจางๆ
มือลูบไล้จากเอวคอดขึ้นมาเกาะกุมเต้าแฝด
ปล่อย!
เสียงแข็งร้องค้าน แต่ยังยืนรับทุกสัมผัส ไม่อาจดิ้นหนีไปไหนได้
เดี๋ยว!
จะทำอะไร
ร่างถูกยกสูงลอยเหนือพื้น
นอกจากเค้าจะกอดฉัน ตอนนี้ยังช้อนตัวอุ้มเดินมาทางเตียงอีกด้วย
โอ๊ย!
เจ็บนะ
เดี๋ยวคุณได้เจ็บกว่านี้แน่
ร่างฉันถูกโยนตกลงพื้นเตียง
ทั้งที่บ่นเสียงดังหวังให้อีกฝ่ายสำนึกแต่เปล่าเลย
เค้ากลับยิ้มยั่วย่างสามขุมขึ้นมานั่งข้างๆ เขาไม่เปิดโอกาสให้พูดต่อ
มือหนาเรียวยาวบีบกรอบหน้าฉันให้เชิดจ้องระยะสายตา แววตาดำขลับสะกดให้ใจเต้นรัว
อายุเท่าไรแล้วคุณ
ดีดดิ้นทำเป็นไม่เคยไปได้
สูดลมหายใจลึกๆ
เก็บกดความประหม่าไว้ ใช้สายตาจ้องดุดัน แม้คนตรงหน้ายังยิ้มเย้ยกวนประสาท
แต่ฉันก็จะไม่โต้เถียงอีก
เขายิ่งขยับเข้าใกล้
ใช้สันจมูกดันชิดแก้ม ไอร้อนสัมผัสผิวหน้าทำสะดุ้ง
ฉันไม่อาจถอยหนีไปไหนได้เพราะแขนแกร่งประครองกอดไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งที่อยากดิ้นหนีร่างกับถูกพันธนาการไว้ด้วยวงแขน
เขาเริ่มซุกไซ้ซอกคอ ริมฝีปากละเลียดชิมผิวเนื้อ กดย้ำราวอยากตราตรึงรอยรักไว้
ทั้งที่ฉันควรผลักไส้แต่เพราะความตื่นเต้นแปลกใหม่ ทำให้ฉันนิ่งทำอะไรไม่ถูก
ใครกันแน่ไร้เดียงสา
เสียงเหยียดกระซิบพร่า เค้าคงจับความรู้สึกตื่นเต้นได้
เพราะฉันสั่นเทาแถมยังครางเสียงน่าเกลียด
อืมม...
ถอดชุดออกซิ
ให้ผมถอดเองเดี๋ยวจะกลายเป็นเศษผ้าซะเปล่าๆ
ไม่!
นายสั่งฉันไม่ได้หรอก
เสียงแห่งห้วงความคิดมันใจว่าปฏิเสธได้
แต่ร่างกายกลับสวนทาง
ฝ่ามือหนากว่าช้อนมือฉันขึ้น
พรมจูบจากหลังมือไล่ขึ้นจนถึงเรียวแขน ไอเห่อร้อนวูบไหวตามทุกส่วนที่สัมผัส สายตาเขานิ่งค้างสองก้อนแฝดที่หลบซ้อนอยู่
ถอดซิ
เขายกมือฉันมาวางค้างที่กระดุมบนหน้าอก ทุกอย่างเกิดขึ้นราวมนตร์สะกด
ปลายนิ้วเรียวกรีดกรายปลดออกทีละเม็ดช้าๆ จนอีกฝ่ายทนรอไม่ไหว
กระชากพรวดเดียวหลุดออกจนหมด
บราสีดำเรียบลอยเด่นตัดกับผิวเนื้อขาวเนียน
วงแขนล็อคเอวรั้งฉันไปใกล้กว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาจมหายไปกับร่องอกอวบอิ่ม
ฝ่ามือเคลื่อนตัวส่งความเสียววาบทั่วร่าง
แคว๊ก
เสียงฉีดผ้าดังปลุกฉัน
กว่าจะรู้ตัวตอนนี้ก็เหลือเพียงแพนตี้ลูกไม้ตัวจิ๋ว
โทษทีเดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่
เขาเงยหน้าจากเนินท้องขึ้นพูดกวนประสาทนิดหนึ่ง
แล้วลากต่ำลงไปหยกล้อเนินสามเหลี่ยม
ทั้งที่ฉันควรดิ้นหนี
แต่พอได้ไออุ่นแบบนั้นกับเปิดทางอ้ากว้างให้ร่างเค้าแทรกเข้ามา
พรมจูบลงไปเรื่อยๆ
จนถึงเนื้ออ่อนต้นขาด้านใน ความจั๊กจี้ปั่นป่วนให้ฉันอยากหุบขาหนี
แต่ไม่ทันทำได้แขนแกร่งกว่าก็ล็อกสองขาแยกออกจากกันซะแล้ว
ลิ้นสากละเลียดชิมทีละน้อย
อ้อยอิ่งสะกิดทุกซอกหลืบอย่างอยากรู้
ร่างกายฉันถูกสำรวจจนความเสียวซ่านตีรวนกันมั่วไปหมด ไม่อาจขัดขืนความนุ่มละมุน
แข็งกระด้าง และสั่นเทานี้ได้
รู้สึกง่ายจัง
คุณเสร็จไปกี่ทีแล้วเนี่ย
เสียงที่เคยนิ่งเรียบ เริ่มหยอกเย้ายียวนพร้อมปลายนิ้วซุกซน
เขากำลังยิ้มขำที่ร่างกายฉันตื่นตัวตาม
ปล่อย
ไม่
สวบ
แรงดันจุกแน่นทิ่มเข้ามาสุดลำ ฉันอึ้งด้วยความเจ็บปวด
เผลอปล่อยเสียงครางน่าเกลียดอีกแล้ว ภายใต้ร่างกำยำของชายหนุ่ม
ฉันเหมือนเครื่องรองรับอารมณ์ใคร่ ตั้งท่ารอการโยกขยับ
แน่นจัง
อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคย
สีหน้ากวนประสาทเปลี่ยนเป็นถามจ้อง
สายตายียวนเปลี่ยนเป็นคาดคั้น ฉันจุกจนพูดไม่ออก
ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธทั้งที่มันคือความจริงทุกอย่าง
พอเห็นฉันไม่ตอบแรงมหาศาลก็ถาโถมใส่ฉัน
ทุกส่วนของร่างกายทุกสัมผัสถูไถทำให้เราใกล้กันมาก
ตึก ตึก
เสียงใจเต้นถี่แข่งกันทำให้อบอุ่น
เขาเป็นคนแปลกหน้าที่ร่างกายกลับยอมรับ
ทุกจังหวะที่ท่อนเนื้อเสียดสีเข้ามาในร่าง
มันหนักหน่วงแต่ก็แฝงความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เขาโอบกอดฉันไว้แน่น
กระเส่าเสียงลมหายใจอยู่ใกล้ พร่ำถามคำห่วงใย
อืมม... เจ็บหรือเปล่า
ถามบ้าอะไร!
ถูกกระแทกกระทั้นขนาดนี้จะไม่เจ็บได้ไง
แล้วฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย!
ทำไมพูดตอบไม่ได้
อึดอัดคับแน่นทำได้เพียงครางระงมอย่างลืมตัว
อ๊ะ!
อ๊าซ.. อ้า
ไม่มีอะไรจะโต้เถียงอีก
ทำได้เพียงกระเส่าเสียงหวาน ตั้งท่ารับแรงดันเข้าออก ฝ่ามือแกร่งกอดเขาไว้แน่น
ทำหน้าที่จนแรงดันน้ำอุ่นพ้นฉีดเข้ามา เราสองคนกอดกันแน่น กระตุกตัวถี่พร้อมกัน
เจ็บไหม
ค่ะ
แล้วชอบหรือเปล่า
ฉันไม่กล้าตอบ
ทำได้เพียงเบี่ยงหน้าหนีอย่างเขินอาย อิตาบ้านี่จะถามย้ำอะไรนักหนานะ
ปกติแค่คู่นอนเค้าสนใจกันด้วยหรอว่าเจ็บหรือไม่
ผมรักษาให้ไหม
เขาพลิกตัวกลับมาคร่อมทับอีกครั้ง
ฝ่ามือหนาลูบปล่อยเนินเนื้อแผ่วเบา ปะป่ายวนเวียนอยู่แถวนั้นไม่ยอมห่างไปไหน
ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่พูด จนร่างเขาค่อยๆ
ก้มลงต่ำดอมดมทุกสัดส่วนบนร่างลงไปจนถึงเนินน้อย
จูบละมุนพรมทั่วเนื้ออ่อนต้นขาทั้งสองข้าง
สันจมูกคมตามสำรวจซอกหลืบไร สะกิดลิ้นทักทายร่องระบมครั้งแล้วครั้งเล่า
คุณ ทำอะไร
ร้องถามเสียงหวาน แรงสะกิดติ่งเนื้อยิ่งรัวถี่แทนคำตอบ
หน้าหล่อเหลาจมหายไปกลางหว่างขาเนินนาน
ทำฉันกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยนับครั้งไม่ถ้วน หายใจหอบระรวย ครางอื้อหมดฟอร์ม
สมองขาวโพลนเกินควบคุม
รู้สึกอุ่นสบายดีเหลือเกิน
ทุกจังหวะหวานละมุนทำให้ร่างฉันเด้งสวนกลีบเนื้อไม่หยุด ปากได้รูปดูดทึ้งจนหนำใจ
ขบเม้มจนติ่งเสียวสั่นตามหัวใจปรารถนา
ลิ้นสากฉกชิมที่เดิมซ้ำๆ
กระดกชิมปุ่มเสียวจนร่างฉันเด้งเร้าราวไร้การควบคุม
ทุกการเคลื่อนไหวสร้างความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกระสั่นซ่านยามห่อตัวจนปลายแข็งกระดกทิ่ม
ทั้งหายใจไม่ออกยามกลีบปากฟัดติ่งเนื้อ ดูดดุนราวอร่อยเหลือเกิน
พอค่ะ ชญาไม่ไหวแล้ว
แรงมหาศาลทำงานพร้อมกันทุกทิศทาง ฉันไม่อาจทนรับความรู้สึกนี้ได้
เนื้อเต้นใจสั่นระรวยจนสมองขาวโพลนไปหมด ไม่นานความดำมืดก็มาเยือน
คุณ!
คุณ!
ถึงกับสลบเลยหรอ
@Morning
สองแขนบิดขี้เกียจตามความเคยชิน
กลิ้งร่างบนเตียงกว้างเร่งปลุกทุกเซลล์ให้ทำงาน นี่คงเป็นวันน่าเบื่ออีกวันหนึ่ง
ตื่นนอน ,
ไปทำงาน ,
กลับบ้าน ,
เข้านอน วนเวียนอยู่อย่างนั้น
อืมม... สบายจัง
ตื่นแล้วหรอคุณ
!!!
เสียงแหบพร่าพูดแทรกขัดอารมณ์สุนทรียามเช้า
เข้ายืนเสริมหล่ออยู่หน้ากระจกหันหลังให้ฉัน
ตึก ตึก
รอยสักมังกรตัวใหญ่ประทับอยู่บนแผ่นหลังกำยำ
แถมประดับด้วยรอยแผลบากขนาดใหญ่เฉียงตัวตามความกว้าง
ฉันแทบลืมหายใจ
มองรอบตัวดีๆ แล้วอยากด่าตัวเองอีกหลายระรอก ที่นี่ที่ไหน
แล้วฉันมาทำอะไรกับนายมาเฟียน่ากลัวนี่เนี่ย
เห็นแล้วซิ
กลัวผมหรือไง ดูทำหน้าเข้า
เออ...
ชญากลับก่อนดีกว่า
ปล่อยเสียงอึกอักพูดไม่เป็นคำ
จนอีกฝ่ายทำหน้างง มือหนารีบคว้าแขนฉันไว้ ใช้สายตาดุดันจ้องถาม
รังเกียจผมหรือไง
เปล่า!
ฉันรีบตอบปฏิเสธทั้งที่เสียงสั่นส่อพิรุธ
เขายื่นหน้ามาใกล้เอียงคอเลี่ยงหาองศาราวจะจูบ สายตาดุดันจ้องค้าง
อ่านกินทุกความรู้สึกทะละปุโปร่ง
ฉันไม่อาจเลี่ยงได้จนหลับตานิ่งไม่กล้าแม้แต่ขยับหนี
หึ!
เสียงเย็นชาเยาะเย้ยไม่มีความหมาย เขาทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้าง
โชว์แผ่นหลังรูปมังกรตัวใหญ่กับรอยบากแผลทางยาว ยอมรับว่ามันน่ากลัว
แต่ก็ไม่สยองเท่าที่ฉันจำไม่ได้ว่าเมื่อคืน ...เกิดอะไรขึ้นบ้าง
จ้องแผ่นหลังคนตรงหน้าให้เต็มตา
รอยกรีดน้อยใหญ่อีกหลายเส้นถูกกลบทับตัวมังกรสีสด
แรงหายใจแผ่วไหวบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกแย่ ฉันทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ช่างใจคิดก่อนทำบางอย่าง
สอดแขนบางข้ามไปกอดเขา
สันจมูกคลอเคลียรอยแผลเป็น ประทับริมฝีปากจูบซับเจ้ามังกรขี้น้อยใจ
กระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แนบหน้าฝากไออุ่นลมหายใจไว้ตรงนั้น
เช้าแล้ว
ญชาขอไปทำงานนะคะ
ก็ไปซิ!
ผมไปส่ง
โอ๊ย!
อะไรก็เนี่ย
TGA
รักละมุน
ไม่สะดวก Ebook แต่อยากอ่านต่อ
คลิกจ้า